วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

งานเข้า! คนแห่ขอเงินคืน หลัง FB ซื้อกิจการ Oculus Rift

งานเข้า! คนแห่ขอเงินคืน หลัง FB ซื้อกิจการ Oculus Rift

กระแสข่าวการซื้อกิจการ Oculus Rift ของ Facebook ยังไม่จบลงง่ายๆ ล่าสุดเกิดดราม่าขึ้นแล้ว เมื่อบรรดาอดีตผู้สนับสนุน Oculus Rift ต่างพากันตีตัวออกห่าง เพราะสาเหตุที่ Facebook ซื้อกิจการไป
Oculus Rift
ดราม่าแรกเกิดขึ้นที่เว็บไซต์ Kickstarter ที่เป็นเว็บไซต์สำหรับระดมทุนโปรเจคใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วเมื่อปี 2012 ทาง Oculus Rift ที่ยังไม่มีทุนพัฒนามากนัก ได้เปิดตัวโปรเจคพัฒนาขึ้นที่นี่ และขอรับบริจาคทุนพัฒนาจากผู้ที่สนใจโปรเจคจนได้ทุนนำมาพัฒนาเป็นเงินกว่าสองล้านดอลล่าห์ (จากตอนแรกขอแค่ $250,000) โดยขณะนั้นทาง Oculus Rift สัญญาว่าจะมอบตัวอุปกรณ์และอื่นๆให้กับผู้ที่บริจาคเงินเข้ามา แต่ว่าภายหลังจากที่ Facebook ได้ซื้อกิจการ Oculus Rift ไปเป็นจำนวนเงิน 2 พันล้านดอลล่าห์แล้ว ก็เลยทำให้สมาชิกเว็บไซต์ Kickstarter ไม่มั่นใจเกี่ยวกับอนาคตของสินค้าและเงินที่พวกเขาได้ลงทุนบริจาคให้ไป ก็เลยพากันทวงเงินบริจาคคืนจากทาง Oculus Rift เพราะตอนนี้ก็ได้เงินมามากกว่าที่ได้บริจาคไปแล้ว
แต่ปัญหาก็อยู่ตรงที่ เว็บไซต์ Kickstarter ไม่มีกฎกติการับรองการคืนเงินจากเจ้าของโปรเจค เพราะการให้เงินใน Kickstarter นั้นคือการบริจาค ไม่ใช่การร่วมลงทุน ดังนั้นหากเจ้าของโปรเจคปิดโปรเจคแล้วเชิดเงินหนีไป ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคืนเงินให้กับผู้ที่บริจาคเงินไปแล้วนั่นเอง (ซวยสิครับ) งานนี้จึงขึ้นอยู่กับคุณธรรมของทาง Oculus Rift โดยตรง ว่าจะยอมคืนเงินที่ได้รับบริจาคมาหรือไม่ เพราะพวกเขาไม่มีอำนาจที่จะส่งมอบอุปกรณ์ให้กับผู้บริจาคแล้ว เนื่องจากสิทธิ์ตกเป็น Facebook ไปแล้วนั่นเอง
Joel Johnson หนึ่งในผู้บริจาคเงินจำนวน $300 ให้กับโปรเจค Oculus Rift เชื่อมันว่า ทาง Facebook คงไม่สนใจคำสัญญาของโปรเจค ที่จะส่งอุปกรณ์ให้ผู้บริจาคแน่ เพราะบริษัทเขาไม่เกี่ยวกับสัญญาดังกล่าว แถมปัญหาอื่นๆใน Facebook ที่ใกล้ตัวมากกว่ายังไม่ค่อยจะแก้ไขเลย ซึ่งบรรดาผู้บริจาคคนอื่นๆก็เห็นด้วย และไม่พอใจกับข่าว Facebook ซื้อกิจการในครั้งนี้
ดราม่าที่สองมาจาก Markus "Notch" Persson เจ้าพ่อเกมส์ Minecraft ที่ก่อนหน้านี้กำลังมีโปรเจคพัฒนาเกม Minecraft ให้รองรับ Oculus Rift แต่หลังจากข่าว Facebook ซื้อกิจการไป ทาง Notch ก็ได้ยกเลิกพัฒนาโปรเจคนี้ทันทีอย่างไม่ไยดี ซึ่งเขาได้บอกความในใจของเขา ที่บล็อกของเขาเองดังนี้ - ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.juropy.com
"Facebook ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีเกมส์" Notch เขียนในบล็อกของเขา "Facebook ได้แต่สนใจแต่การเพิ่มจำนวนผู้ใช้ ไม่มีอะไรเลยนอกจากการเพิ่มจำนวนผู้ใช้ มีคนมากมายสร้างเกมให้เล่นบน Facebook และมันก็เวิร์คในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่พวกเขาก็ติดอยู่ในฐานะที่ไม่ค่อยดีหลังจาก Facebook ได้เปลี่ยนไปเพื่อประสบการณ์ทางสังคมที่ดีกว่าเดิม"
Oculus Rift
"ผมไม่อยากทำงานกับโซเซียล ผมอยากทำงานกับเกม" เขาเพิ่มเติม "ผมอยากจะเป็นส่วนหนึ่งกับ Virtual Reality อย่างแน่นอน แต่ผมจะไม่ร่วมงานกับ Facebook แรงจูงใจของพวกเขานั้นไม่มีทิศทางที่แน่นอน และพวกเขาก็ไม่เคยเป็นแพลตฟอร์มเกมส์ที่มั่นคงมาก่อน มันไม่มีอะไรในประวัติศาสตร์ของพวกเขาที่จะทำให้ผมเชื่อในตัวพวกเขาได้ และนั้นทำให้พวกเขาดูน่าแขยงสำหรับผม"
Notch สรุป "ผมขอแสดงความยินดีทั้ง Facebook และเจ้าของ Oculus แต่นี่ทำให้เราต้องแยกทางกันแล้วล่ะนะ"
.......... .......... .......... .......... ..........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น