รีวิว Path Of Exile ตำนานบทใหม่ของเกมส์แนว Hack & Slash

รีวิว Path Of Exile ตำนานบทใหม่ของเกมแนว Hack & Slash

เกม Path Of Exile เป็นเกมออนไลน์ประเภท Action RPG แบบ Hack & Slash ตัวเกมจะออกไปในแนวแฟนตาซีแบบดาร์คๆ เกมเพลย์เล่นคล้ายๆกับเกมส์ Diablo ที่เน้นการเดินหน้าฆ่ามอนสเตอร์ลูกเดียวและหาไอเทมมาเสริมความแข็งแกร่งตัวละครของเรา และยังมีการทำเควสเนื้อเรื่อง จุดเด่นของเกมนี้จะอยู่ที่ระบบ Active Skill จาก Gem และ Passive Skill จาก Skill Tree โดย Gem นั้นสามารถนำไปใส่ในอุปกรณ์ของเราทำให้ความสามารถของสกิลดียิ่งขึ้น โดยเกมส์นี้ได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2006 และเปิดให้ทอสอบในช่วง Closed Beta ในเดือนสิงหาคม ปี 2011 และมีการเปิดช่วง Open Beta ในต้นปีที่ผ่านทางตัวเกมที่มีเซิฟเวอร์อยู่หลักอยู่ในระบบ Steam และยังแบ่งออกมาเป็นเซิฟเวอร์โซน SEA ของทางการีน่าอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่บ้านเราจะนิยมข้ามไปเล่นยังเซิฟเวอร์โซน NA/EU แต่ก็มีการเล่นเซิฟเวอร์ SEA/SG ไม่น้อยเลยทีเดียว 

สำหรับเกม Path of Exile นั้นสไตล์การเล่นนั้นแทบจะเหมือนเกมยอดฮิตอย่างเกม Diablo นั่นก็คือการใช้เม้าส์คลิกเพื่อเดินและโจมตีรวมถึงการใช้สกิลด้วย แถมบรรยากาศและระบบเกมส์ภายในยังคล้ายคลึงกับเกม Diablo 2 และจุดสำคัญของเกมนี้ก็คืออาชีพที่มีให้เลือกมากถึง 7 อาชีพ ได้แก่ Marauder ,Ranger ,Witch ,Duelist ,Templar ,Shadow และ Scion (อาชีพสุดท้ายยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเกมส์ครับ) และอีกหนึ่งจุดเด่นอย่าง Passive สกิลที่มีให้เลือกใช้มากกว่า 1,000 ชนิด ซึ่งตัวละครของเราสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของเราได้เลยทีเดียว  เกม Path of Exile นั้นมีการแบ่งค่าสถานะของตัวละครไว้ 3 อย่างด้วยกันคือ Strength, Dexterity และ Intelligence ซึ่งแต่ละสถานะก็จะช่วยส่งเสริมความรุนแรงในการโจมตีและป้องกันของแต่ละสายอาชีพด้วย

มาถึงจุดเด่นมากๆของเกมส์นี้และยังทำให้ผู้เริ่มเล่นแรกๆงงพอสมควรเลยนั่นก็คือระบบ Passive Skill Tree ที่มี Passive Skill ให้เลือกอัพมากกว่า 1,000 แบบและสามารถอัพได้อย่างอิสระคล้ายๆกับการอัพ Sphere Grid ของเกม Final Fantasy ภาค 10 และสกิลแต่ละพ้อยที่อัพไปจะเพิ่มค่าสถานะหรือเพิ่มความสามารถบางอย่างแก่ตัวละครของเรา ซึ่งเบื้องต้นของอาชีพแต่ละสายจะแบ่งออกไว้ชัดเจนและจะสามารถข้ามไปอัพ Passive skill ของสายอื่นๆได้อีกด้วย ทำให้สามารถเล่นได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น

มาถึงอีกระบบเด่นที่ผมขอนับถือความคิดของนักพัฒนาเกมส์นี้เลยทีเดียวนั่นก็คือระบบการเทรดของแลกเปลี่ยนในเกมนี้นั้นจะไม่มีการดรอปเงินแต่อย่างใดแต่จะใช้วัตถุดิบต่างๆในการแลกเปลี่ยนแทน ซึ่งเราจะสามารถหาได้จากการขายไอเทมในร้านขายของ และวัตถุดิบในการแลกเปลี่ยนที่นิยมกันมากที่สุดก็คือ Identify Scroll(ไอเทมเปิดผนึก) และ portal Scroll(ใบวาปกลับเมือง) ครับ ซึ่งวัตถุดิบในการแลกเปลี่ยนนี้ไม่ได้มีแค่สองอย่างที่กล่าวมาเท่านั้น แต่ยังมีวัตถุดิบอีกหลายชนิดที่มีความสามารถสูงกว่า เช่น วัตถุดิบสำหรับแรนด้อมค่า Stat ไอเทม หรือแปลงของให้เป็นระดับแรรไอเทมอีกด้วย

มาถึงระบบไอเทมของเกมนี้ซึ่งจะเหมือนเกมส์ทั่วๆไปคือจะมีการแบ่งระดับไอเทมแบบชัดเจนโดยที่ขึ้นอยู่กับสีของไอเทม โดยไล่ไปตั้งแต่สีขาว(ไอเทมปกติ), สีฟ้า(Magic), สีเหลือง(แรรไอเทม), จนถึงกระทั่งสีทองที่เป็นไอเทมโคตรหายาก แต่ยังมีอีกระบบที่เข้ามาช่วยซัพพอรตการครอบครองไอเทมเหล่านี้คือการอัพเกรดไอเทมด้วยหินบางชนิดอย่าง Orb of transmutation ที่จะอัพเกรดจากไอเทมระดับปกติให้เป็นไอเทมระดับ Magic ได้ และยังมีไอเทมอื่นๆที่สามารถเปลี่ยนระดับของไอเทมให้เป็นระดับแรรจนถึงระดับไอเทมโคตรหายากได้เลย ซึ่งไอเทมเหล่านี้ก็หาได้ยากตามความสามารถของมันด้วยกัน  และที่สำคัญเกมนี้ไม่มีระบบเทพทรูครับ เพราะไอเทมมอลหรือไอเทมแคชทุกชิ้นเป็นเพียงการเสริมเอฟเฟคของตัวละคร หรือจำพวกสัตวเลี้ยงและไอเทมสำหรับขยายช่องเกบของเท่านั้น จึงการันตีได้เลยว่าไม่ใช่เกม Pay to Win แน่นอนครับ

จุดเด่น

- เกมส์แนวนี้ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากครับเดินลุยตีมอนสเตอร์ ทำเควส หาของมาใส่อย่างเดียว ไม่มีฟีเจอร์ที่ล้ำลึกพิสดารมาก ทำให้เล่นและเข้าใจตัวเกมได้ง่ายมากๆ ซึ่งถ้าเคยเล่นเกม Diablo มาก่อนก็จะเข้าใจเกมนี้ได้ไม่ยากเลยครับ

- ตัวละครมีให้เลือกหลายสาย และการอัพ Skill Tree สามารถอัพได้ตามอิสระ ซึ่งมีให้เลือกกว่า 1000 แบบ พลิกแพลงได้มาก

- ความต้องการของระบบต่ำแต่ภาพในเกมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเกมส์อื่นที่เป็นเกมแนวเดียวกันเลย

จุดด้อย

- ไม่ใช่เกมส์แนว Pay to win ซึ่งอาจะทำให้ผู้เล่นบางกลุ่มที่ชื่นชอบเกมแนวฮารดคอร์ที่อยากจะจ่ายเงินซื้อไอเทมเทพๆมาเสริมตัวละคร ส่วนใหญ่ไอเทมแคชจะเป็นส่วนที่ช่วยให้เล่นง่ายขึ้น เช่นพวกไอเทมสัตวเลี้ยง แฟชั่น ไอเทมขยายช่องเก็บของ เป็นต้น ครับ

- Skill Tree อัพได้อิสระแต่ข้อเสียก็คืออัพแล้วอัพเลย ไม่สามารถรีเซทกลับอัพใหม่ได้ ถึงจะมีเควส refund skill point แต่ก็ได้ไม่กี่พ้อย

.......... .......... .......... .......... ..........