(รีวิว) Fighting Is Magic การต่อสู้ของเหล่าม้าโพนี่
My Little Pony: Friendship Is Magic หรือในชื่อภาษาไทยว่า “มิตรภาพอันแสนวิเศษ” เป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์แอนิเมะจากอเมริกาที่ดังไปก้องโลก (ปัจจุบันออกอากาศซีซั่นที่ 4 กำลังจะจบแล้ว และกำลังจะมีซีซั่นที่ 5 ต่อ) แม้ว่าจะเป็นการ์ตูนที่เน้นกลุ่มเด็กผู้หญิง แต่กลุ่มคนดูส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้ชายวัยทำงานซะงั้น และทำให้เกิดแฟนๆ การ์ตูนเรื่องนี้อย่างมากมาย จนก่อให้เกิดทั้งแฟนอาร์ต แฟนฟิตมากมาย แต่ใครจะนึกหละว่าจะจะมีคนที่คลั่งไคล้จนทำออกมาเป็นเกมส์ด้วย! ซึ่ง Fighting Is Magic เองก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ
ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหารีวิวเกมนั้น ต้องเกริ่นก่อนว่า จริงๆ แล้วตัวเกม Fighting Is Magic นั้นควรจะได้เล่นกันเมื่อปี 2012 – 2013 แล้ว แต่เนื่องจากทีมพัฒนาเกมส์ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำเกมส์มาก่อน ถูกทาง Hasbro ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิในการจัดจำหน่าย My Little Pony นั้นฟ้องเรียกค่าลิขสิทธิทั้งๆ ที่เกมของพวกเขาไม่ได้ทำออกมาขาย และไม่ได้รับการระดมทุนใดๆ ทั้งสิ้น (เหตุที่เรื่องมันแดง เพราะตัวเกมส์นั้นได้รับเชิญให้ไปโปรโมทในงาน Evolution Championship Series ซึ่งเป็นงานแข่งขัน E-Sport ของเกมไฟติ้งของทางอเมริกานั่นเอง และนั่นแหละที่ทำให้ Hasbro มาเอาเรื่องได้)
แน่นอนว่าสิ่งที่ทาง Hasbro ยื่นข้อเสนอมาก็คือ ต้องลบตัวโปรเจคที่อุตส่าห์ทำมาทั้งหมดจนทางทีมพัฒนาพยายามที่จะต่อสู้ใน ชั้นศาล เพราะผลงานนี้เป็น Fan-made และไม่ได้ทำขาย (มีแฟนๆ การ์ตูนที่ติดตามเป็นทนายความมาช่วยด้วย) แต่สุดท้ายในที่สุดเรื่องนี้ก็รู้ไปถึง Lauren Faust ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดการ์ตูนเรื่อง My Little Pony ตัวจริง เธอจึงได้เข้ามาช่วยเหลือและช่วยทีมพัฒนาเกมในการออกแบบตัวละครในเกมให้อีก ด้วย และนอกจากนี้ ทาง Lab Zero Games ทีมพัฒนาเกม Skullgirls ซึ่งเป็นเกมส์แนวไฟติ้ง 2D เหมือนกัน ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนทั้งในส่วนของแองจิ้นในการพัฒนาเกมส์อีกด้วย จึงทำให้ในที่สุด ตัวเกมก็สามารถปล่อยตัวออกมาได้ซะที
ทีนี้กลับมาสู่เนื้อหาตัวเกมส์กันนะครับ ตัวเวอร์ชั่นที่เราจะได้เล่นกันนี้จะเป็นเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ระดับหนึ่ง กล่าวคือ จะมีตัวละครมาให้เราเล่นทั้งหมด 6 ตัวหลักในเบื้องต้นก่อน นั่นก็คือ ทไวไลท์ สปาร์คเคิล ยูนิคอร์นสาว นางเอกของเรื่อง , แอปเปิ้ลแจ็ค ม้าคาวบอยสีส้ม , เรนโบว์แดช เพกาซัสสีรุ้ง , ฟลัทเทอร์ชาย เพกาซัสขี้อาย , พิงค์กี้พาย ม้าสีชมพูสุดรั่ว และ แรริตี้ ยูริคอร์นดีไซเนอร์สาว ส่วนตัวละครอื่นๆ นั้นมีปรากฎให้เห็นในเกม แต่ยังเล่นไม่ได้ ซึ่งคิดว่าคงจะได้เล่นกันในอนาคตเมื่อตัวเกมส์มีการพัฒนาเวอร์ชั่นใหม่แล้ว
ตัวเกมส์นั้นจะเป็นแนว 2D fighting game โดยใช้แองจิ้นเดียวกับเกม Skullgirls ดังนั้นแล้วไม่ต้องห่วงคุณภาพของกราฟฟิกตัวเกมส์เลยว่าจะทำออกมาดีไม่ดี เพราะทั้งการเคลื่อนไหวและความรื่นไหลในการบังคับนั้นทำออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อผู้ให้กำเนิดการ์ตูนอย่าง Lauren Faust เองก็ลงมาช่วยออกแบบตัวละครให้ด้วย ดังนั้นท่าทางตัวละครในเกมส์นั้นจะทำออกมาได้ถูกต้องตรงตามต้นฉบับทุกอย่างจน เหมือนเป็นเกมที่ทางผู้ผลิตสร้างมาด้วยตนเองเลยหละครับ แต่แน่นอนว่าถึงตัวเกมส์จะเป็นแนวไฟติ้ง ตัวเกมก็ยังไม่ลืมภาพที่น่ารักของตัวละครเอาไว้ด้วย
จึงทำให้ตัวเกมส์นี้ทำออกมาไม่ได้ดูรุนแรงอะไรมากมายนัก เหมาะสำหรับให้เด็กๆ มาเล่นได้ แต่ถึงภาพจะน่ารัก แต่ระบบปะทะการต่อสู้ทำออกมาฮาร์คคอร์มาก โดยทีมพัมนาเองได้ใช้แบบอย่างมาจากเกมส์อย่าง Street Fighter IV และ Ultimate Marvel vs. Capcom 3 มาเป็นต้นแบบในการออกแบบท่าทางการต่อสู้ และสำคัญคือขุมพลังของ Z-Engine ทำให้การเคลื่อนไหวในการต่อสู้ทำออกมาได้ดีและเป็นธรรมชาติมาก ทำให้ตัวเกมค่อนข้างฮาร์คคอร์สำหรับคอเกมส์ไฟติ้งกันเลยทีเดียว แน่นอนว่ายิ่งถ้าใช้จอยในการเล่นก็จะเล่นได้สนุกขึ้น
เพราะตัวเกมนั้นจะเน้นให้คนเล่นต้องใช้ท่าในการโจมตีต่างๆ เป็นคอมโบไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถจัดการกับศัตรูได้ (โดยเฉพาะ AI ในเกมนี้ที่ทำออกมาโหดใช้ได้) ซึ่งคนเล่นนั้นก็ต้องไปจำท่า Commend List หรือปุ่มกดท่าโจมตีของตัวละครเอง แต่ในเกมส์นี้ไม่ได้มีท่าที่จำยากอะไรนักเพราะหลักๆ จะใช้ปุ่มโจมตีอยู่ 2 ปุ่มหลัก (อีกปุ่มนึงคือของแถม) และใช้ปุ่มเคลื่อนที่ในการทำเป็นท่าโจมตีต่างๆ แทน และตัวละครแทบทุกตัวจะมีปุ่มโจมตีหลักๆ และการใช้ท่าที่ไม่ต่างกันมากนักแม้ว่าจะเป็นตัวละครที่มีรูปแบบการโจมตีคน ละแบบก็ตาม
ด้วยการออกแบบตัวละครที่ทำออกมาเป็นอย่างดี ทำให้ตัวละครทุกตัวจะมีท่าการโจมตีและการโต้กลับที่แตกต่างกัน แต่จะไม่มีตัวละครไหนที่เก่งกว่าใคร (ถึงแม้ว่าตัวทไวไลท์น่าจะโหดที่สุดก็เหอะ) เพื่อรักษาความสมดุลของตัวเกมเอาไว้นั่นเอง ในการเล่นนั้นคนเล่นจะสามารถปรับแต่งปุ่มกดบนคีย์บอร์ดได้อย่างอิสระ ส่วนจอยนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนปุ่มบังคับได้ แต่คนเล่นจะสามารถใช้งานทั้งปุ่มบนคีย์บอร์ดและจอยเกมตอนไหนก็ได้ แน่นอนว่าสามารถเล่นปะทะกัน 2 คนในเครื่องเดียวกันได้ด้วย (จริงๆ แล้วมันเอามาเล่นออนไลน์ได้ แต่ต้องลงโปรแกรมเพื่อเชื่อมต่อ IP กันต่างหาก)
แม้ว่าตัวเกมส์จะไม่มีเนื้อเรื่องอะไรเลย (และคิดว่าคงทำไม่ได้ เพราะคอนเชปของการ์ตูน My Little Pony นั้นไม่เหมาะทำเป็นเกมไฟติ้งแต่แรกแล้ว) ทำให้เป็นเกมที่เอาตัวละครในเรื่องมาไฝว้กันเสียมากกว่า ซึ่งนอกจากจะออกแบบตัวเกมออกมาถูกใจชาว Brony (กลุ่มแฟนการ์ตูนที่เป็นเพศชาย) แล้ว ตัวเกมยังออกแบบมาสำหรับคอเกมไฟติ้งระดับฮาร์คคอร์ได้อีกด้วย และยิ่งคนไหนที่อยากรู้ว่าตนเองจะถนัดเกมส์แนวไฟติ้งไหม ลองดาวโหลดเกมนี้มาลองเล่นก่อนได้เลย เพราะเกมนี้สามารถดาวโหลดมาเล่นกันได้ฟรีๆ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นครับ
สรุป
จุดเด่น
- เป็นเกมส์ที่ผู้ให้กำเนิด Lauren Faust เองลงมาช่วยออกแบบ รับประกันความถูกต้องของตัวละครในเกม
- ขุมพลังของแองจิ้นและการสนับสนุนของทีมพัฒนา Skullgirls ทำให้เกมไฝว้มันส์มาก
- กินสเปคน้อยมากๆ คอมสเปคเก่าเล่นได้สบาย (อันที่จริงต้องบอกว่า ถ้าเล่น Skullgirls ได้ ก็ต้องเล่นเกมนี้ได้)
- ในเมื่อเจ้าของลิขสิทธิไฟเขียวในการสร้างเกมแล้ว รอรับการอัพเดตในอนาคตได้เลย
ข้อเสีย
- ในเกมแอบมีบั๊กอยู่บ้าง แต่ไม่ค่อยเจอนัก
.......... .......... .......... .......... ..........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น