8 สัญญาณเตือน บ่งบอกว่าคุณแก่เกินวัยเล่นเกมส์
เชื่อว่ามีเกมเมอร์หลายๆท่านที่อายุก็น่าจะเกินเลข 3 เลข 4 หรืออาจจะเล่น 5 กันแล้ว แต่ก็ยังเล่นที่จะเล่นเกมส์อยู่ นั่นเป็นเพราะความรักความชอบที่เรามีให้กับการเล่นเกมส์ มันทำให้เรายังรู้สึกอยากที่จะเล่นมันอยู่ แม้ว่าอายุสังขารจะเริ่มเคาะประตูบอกว่า "ไม่ไหวแล้วเลิกเล่นเหอะ" ก็ตามที ซึ่งเมื่อก่อนตอนที่ยังเป็นเด็กๆหรือตอนวัยรุ่นอายุน้อยๆนั้น เราเคยสนุกสนานกับการเล่นเกมทั้งวันทั้งคืน จนโดนคุณพ่อคุณแม่ด่า พอมาวันนี้ไม่มีใครมาดุด่าเราได้แล้ว แต่เรากลับไม่สามารถเล่นเกมส์เป็นเวลานานแบบสมัยเด็กได้แล้ว มันเพราะอะไรล่ะ ลองมาดู 8 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเริ่มแก่เกินวัยเล่นเกมกันดูสิ
1. นั่งเล่นเกมส์นานไม่ได้ รู้สึกปวดนู่นปวดนี่ (ปวดหลัง ปวดเอว ปวดขา ฯลฯ)
เนื่องจากอายุที่มากขึ้น สังขารก็เริ่มโรยรา โดนเฉพาะหลัง คนเราเมื่ออายุมากขึ้นเวลานั่งเล่นเกมหรือนั่งทำอะไรนานๆ ก็มักจะมีอาการปวดหลังมารบกวนเป็นเรื่องปกติ การเล่นเกมนั้นส่วนมากเรามักจะนั่งเล่นเป็นท่าที่ใช้บ่อยสุด โดยเฉพาะเกมเมอร์ PC ที่ต้องนั่งหน้าจอคอม แต่ถ้าเล่นเกมเครื่องอื่นๆอย่างคอนโซล หรือเกมพกกา มือถือ ก็จะสามารถนอนเล่น หรือเล่นด้วยอิริยาบถอื่นๆ นอกเหนือจากการนั่งอยู่กับที่นานได้ ซึ่งตัวผู้เขียนเอง ช่วงหลังๆก็แทบไม่ได้เล่นเกมคอมฯแล้ว เพราะนั่งหน้าจอนานๆไม่ไหว เลยนอนเล่นเกมพกพา เกมมือถือซะส่วนมาก
ปวดหลัง ปวดเอว ปวดขา นั่งนานไปหน่อย
2. พยายามเล่นเกมข้ามคืน >> แต่หลับก่อน
พออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะไม่สามารถทนต่อความล้าจากการอดหลับอดนอนได้มากนัก เป็นผลให้ไม่สามารถที่จะเล่นข้ามคืนโต้รุ่งได้เหมือนสมัยเด็กๆ โดยถ้าคุณอายุเกิน 30 ไปแล้ว คุณจะเล่นดึกเต็มที่ก็ได้ราวๆ ตี 3 เท่านั้นแหละ ยกเว้นว่าถ้าคุณนอนกลางวันมาทั้งวันแล้ว นั่นแหละคุณถึงจะเล่นโต้รุ่งได้ แต่ก็ไม่ดีต่อสุขภาพหรอกนะ
ผลลัพธ์ หลังจากลองเล่นเกมโต้รุ่งตอนแก่
3. เริ่มคิดว่าเกมที่ซื้อมาแล้วเล่นไม่คุ้ม
ในสมัยเด็กนั้น เรามีเงินไม่เยอะมาก เลยทำให้ไม่ค่อยมีเกมส์เล่นมากเท่าไหร่ เกมที่ซื้อมาก็มักจะเล่นอย่างคุ้มค่า เล่นจนจบมันซะหลายรอบ บางเกมอาจเล่นจบถึง 10 รอบก็มี แต่พอโตขึ้น มีงานมีเงินมากขึ้น สามารถหยิบเงินจ่ายซื่อเกมส์ที่อยากเล่นได้ทันทีโดยไม่ลังเล แต่ว่าพอหลังจากซื้อมาแล้ว ความอยากเล่นกลับลดลงเรื่อยๆ บางเกมเล่นยังไม่ทันจบก็เลิกเล่นกลางคัน ดองไว้ไม่ได้เล่นต่อ สุดท้ายก็ลืมไปแล้วว่าเคยมีเกมนี้ให้เล่นอยู่ในบ้าน
พอมีเงิน ก็ซื้อเกมได้เยอะ แต่สุดท้ายดองเค็ม
4. ไม่มีเวลาว่างจะเล่นเกมส์
โตขึ้น ความรับผิดชอบก็มากขึ้น ไหนจะงาน ไหนจะภาระ ไหนจะเลี้ยงลูก ไหนจะเลี้ยงภรรยา ไหนจะธุระทางสังคม ทำให้มีเวลาว่างน้อยลงเรื่อยๆ จนไม่ว่างจะมานั่งเล่นเกมส์เหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว แม้คุณอยากจะหาเวลามานั่งเล่นมันแค่ไหน แต่สุดท้ายเพราะภาระต่างๆเหล่านั้นทำให้คุณออกห่างและคิดถึงการเล่นเกมน้อยลงไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็เลิกเล่นไปเลย
ภาพนี้ไม่ต้องบรรยายเพิ่มเติม
5. รู้สึกปลงกับการไปเล่นเกมแข่งกับพวกเด็กๆที่มีเวลาเล่นเยอะกว่า
การเล่นเกมส์สมัยนี้ โดยเฉพาะเกมออนไลน์ เวลาในการเล่นเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งมีเวลาเล่นมากก็ทำให้ยิ่งเล่นเก่งขึ้น ตรงข้ามกับคนมีเวลาเล่นน้อย ก็ไม่ค่อยมีเงิน ไม่มีทักษะ ไม่มีของดีๆใส่ และมักโดนเด็กที่มีเวลาเล่นเยอะกว่าหยามว่า อ่อน นู้บ ถ้าเป็นเมื่อก่อนสมัยเด็กด้วยกัน โดนด่าแบบนี้ก็จะของขึ้น พยายามแข่งอย่างไม่ยอมแพ้ แต่พอแก่ไปก็เริ่มนั่งปลงและคิดว่าเราจะไปแข่งกับพวกเด็กๆมันทำไม เราโตแล้ว ทำไมต้องไปแข่งไร้สาระกับเด็กเกรียนๆที่มีเวลานั่งเล่นเกมทั้งวันทั้งคืนด้วย
เกมแพ้ คนไม่แพ้เว้ย เจอกันนอกเกมไหมสลัด!
6. รู้สึกว่าพวกเล่นเกมเก่งๆ ที่แข่ง E-Sport มันก็แค่เด็ก
คุณเริ่มมีความคิดแบบผู้ใหญ่หัวโบราณ ซึ่งต่างจากความคิดเมื่อตอนคุณเป็นเด็ก โดยตอนเด็กเวลาเห็นใครเล่นเกมเก่งๆไปแข่งระดับโลกก็รู้สึกน่าชื่นชม แต่พอแก่ตัวคุณเริ่มรู้สึกว่าพวกที่ไปแข่งเกมมันก็มีแต่เด็กๆอายุน้อย ที่มีเวลาเล่นเกมเยอะเท่านั้นแหละ ในขณะที่พวกวัยที่อายุเท่าคุณเขาไม่แข่งเกมอะไรกันแล้ว
7. มีความคิดว่าการ Farming ในเกมมันน่าเบื่อ เอาเวลาไปทำงานหาเงินจริงดีกว่า
เพื่อที่จะทำให้ตัวละครในเกมส์ของเราเก่งขึ้น การ Farm เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้คุณมีเงิน มีของ มีประสบการณ์ ที่จะนำไปใช้อัพเกรดตัวละครได้ แต่ว่ามันเป็นส่วนที่น่าเบื่อที่สุดในการเล่นเกมเลยล่ะ ตอนเด็กๆคุณอาจจะมีความพยายามในการฟาร์มโดยที่ไม่เบื่อ แต่พอโตขึ้น คุณเริ่มเบื่อกับการฟาร์ม และคิดว่าตูทำอะไรอยู่ฟะ เอาเวลาไปทำงานหาเงินจริงดีกว่าไหม
เอาเวลาฟาร์มเกม ไปหาเงินจริงดีกว่า
8. คุณเริ่มคิดว่า ทำไมคุณถึงยังเล่นเกมอยู่
เคยมีคำกล่าวไว้ว่า การเล่นเกมส์ออนไลน์ก็เหมือนการใช้ชีวิตในโลกจริงๆ เพราะมีสังคม มีการใช้ชีวิต และอื่นๆ เหมือนคุณได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่อีกโลกหนึ่ง ยิ่งถ้าเป็นแบบการ์ตูน Sword Art Online ยิ่งเหมือน แต่ว่าอย่างไรก็ตามมันก็ต่างจากโลกจริงอยู่ดี เกมออนไลน์คุณสามารถหยุดเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ชีวิตจริงคุณหยุดไม่ได้ และไม่มีตัวช่วยต่างๆเหมือนในเกม คุณจึงเริ่มคิดว่าเราเล่นเกมส์ไปเผื่ออะไร เอาเวลาไปจริงจังกับชีวิตดีกว่า
หนุ่มออสเตรเลียคนนี้ ขายเกมส์ที่สะสมมาทั้งชีวิต เพื่อหาเงินแต่งเมีย
สัญญาณข้อแรกๆ 1-4 นั้นเป็นอาการเล็กน้อยๆ ที่คุณยังสามารถที่จะเล่นเกมต่อไปได้ แม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังมีใจรักจะเล่นเกมอยู่ แต่ถ้าคุณมีอาการแบบข้อ 5-8 หรือหลายๆข้อรวมกัน ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะเลิกเล่นเกมส์ดีกว่า เพราะต่อให้รักที่จะเล่นเกมแค่ไหน คุณก็จะไม่มีความสุขที่จะเล่นเกมส์อีกต่อไปแล้วล่ะ แต่ถ้าคุณยืนยันว่ารักที่จะเล่นเกมต่อไป ก็ไม่มีใครห้ามคุณได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น