รีวิว Wolfenstein: The New Order เกมส์ยิงนาซียุคใหม่
หากให้ยกตัวอย่างเกมส์ต้นตำรับเดินหน้าถล่มยิงเหล่านาซีเยอรมัน หนึ่งในเกมที่จะต้องมีการหยิบมาพูดถึงมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Wolfenstein ที่นอกจากจะเป็นเกมส์ต่อสู้เดินหน้ายิงยุคแรกแล้วยังเป็นเกมที่ใส่ลูกเล่น การลอบเร้นเข้าไปในยุคแรกๆอีกด้วยเช่นกัน ด้วยกาลเวลาล่วงเลยผ่านไปไวเหมือนโกหก Wolfenstein: The New Order ภาคใหม่ซิงจากทาง Bethesda จะทำได้ดีขนาดไหน จะถูกใจเหล่าเกมเมอร์สูงวัยและเกมเมอร์รุ่นใหม่ได้หรือไม่ ทัศนคติของผมต่อเกมส์นี้จะเป็นอย่างไร เชิญอ่านแบบละเมียดละไมปนกับวลีกวนตาวาจากวนตีนได้แล้วด้านล่างนี้
Wolfenstein: The New Order เกมส์เดินหน้ายิงที่ทาง MachineGames ทีมพัฒนาได้รับปากมั่นเหมาะว่าจะยังคงความคลาสสิคไว้เช่นเดิม เมื่อผมได้ตัวเกมส์มาก็จัดเต็มกับการเล่นในระดับยากที่สุดแบบไม่รอช้า สิ่งที่ผมขอเอ่ยปากชมเป็นอันดับแรกคือการนำเสนอเนื้อเรื่องของเกมที่มี ลักษณะเข้มข้นแต่ไม่ซับซ้อน หากยกตัวอย่างภาพยนตร์ก็อาจจะเหมาะกับเรื่อง Commando ในปี 1985 ที่เน้นการเชือดหรือการยิงศัตรูให้พรุนเป็นหลัก แม้กระทั่งการระเบิดศัตรูให้เป็นจุนก็เช่นกัน ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างในแบบที่คนเล่น Wolfenstein อาจไม่เคยเจอมาก่อนคือการปั้นตัวละครศัตรูตัวหลักๆที่ทำออกมาได้ดูน่า หมั่นไส้ในแบบนาซีจอมข่มเหงที่สุด คุณจะได้เจออีแก่หนังเหนียว ทหารตุ๊ดที่มีรสนิยมทางเพศแปลกๆ และนายพล Deathshead นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่มาเป็นตัวร้ายหลักในภาคนี้
นอกจากตัวละครฝั่งนาซีที่ดูน่าหมั้นไส้แล้วตัวเกมไม่ได้นำเสนอไทม์ไลน์ ของสงครามโลกที่เรามักจะเจอในเกมอื่นหรือภาคก่อนๆ แต่ในภาคนี้เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศนาซีครองโลกสืบเนื่องจากฝ่ายที่ชนะ สงครามคือเยอรมันนั่นเอง ตรงนี้ถือเป็นการนำเสนอที่น่าสนใจบวกกับความแปลกไปในตัวทำให้ขณะเล่นเราได้ อินกับความรู้สึกใหม่ๆกับสถาปัตยกรรมในเมืองใหญ่กลายเป็นนาซีจนหมดสิ้น มากกว่าบรรยากาศหัวหาดกระสุนผ่านหัวตามแบบฉบับภาพยนตร์ดังในสมัยก่อน ตัวเรา William “B.J.” Blazkowicz นายทหารเดนตายที่ผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องมารับศึกหนักอีกครั้งในปี 1960 ในการต่อสู้กับเหล่านาซีด้วยกำลังอันน้อยนิดกับผองเพื่อนที่เป็นฝ่ายต่อต้าน
หากใครติดตามข่าวเกมส์นี้มาโดยตลอดจะเห็นว่าผมเคยนำเสนอไปว่าทางทีมพัฒนา เคยออกมาบอกว่าระหว่างการเล่นจะมีการนำเสนอทางเลือกมากมายที่ส่งผลต่อตัวเกมส์ ตลอดทั้งเกม แต่เอาเข้าจริงๆมันไม่ได้มีตัวลงตัวเลือกอะไรขึ้นมาให้เลือกมากมายอย่างที่ เคยได้คุยไว้ การเลือกครั้งใหญ่จะมีอยู่แค่จุดจุดเดียวภายในเกมในช่วงแรกเท่านั้น ซึ่งภายในเกมจะแบ่งเป็นไทม์ไลน์อยู่ 2 ไทม์ไลน์ หากเราเลือกไทม์ไลน์ไหนเหตุการณ์ภายในเกมพวกฉากสนทนาบางจุดของเกมส์ก็จะ เปลี่ยนไปเฉพาะแง่มุมของตัวละครนั้นเพียงตัวเดียว ทำให้แรงดึงดูดในการนำเกมกลับมาเล่นใหม่อาจจะมีเพียงแค่ 2 รอบเท่านั้น
ตามที่ผมได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ใน Wolfenstein: The New Order ได้มีการนำเสนอความโดดเด่นของตัวละครทั้งฝั่งนาซีและฝ่ายต่อต้าน ตรงนี้ระหว่างเกมทำให้เราได้สัมผัสตัวละครเพื่อนร่วมรบในด้านของอารมณ์ความ ผูกพันธ์ทำให้รู้สึกอินไปกับเกม ซึ่งเราจะเห็นว่าเกมเดินหน้ายิงยุคใหม่จะมีที่โหมดเนื้อเรื่องที่เน้นไปที่ ความผูกพันธ์ระหว่างสหายร่วมรบ ตรงนี้ทีม MachineGames ก็ไม่พลาดที่จะใส่เข้ามาแล้วแปลงให้เป็นฉบับ Wolfenstein เช่นกัน แต่สิ่งที่อาจดูแล้วล้าสมัยแต่ผมกลับชอบมันในเกมคือเรื่องของคัตซีนระหว่าง เล่น จะเห็นว่าเกมเดินหน้ายิงสมัยใหม่จะไม่ค่อยนำเสนอเรื่องของคัตซีนระหว่างเล่น แต่จะเป็นเหตุการณ์เกินขึ้นแบบเรียลไทม์ไปเลย ซึ่งเกมต้นฉบับไอเดียที่ว่านี้ก็เห็นคือ Half-Life นั่นเอง, แล้วอะไรทำให้ผมรู้สึกชอบคัตซีนล่ะ? ความ ‘คลาสสิค’ ยังไงล่ะ คนที่เล่นเกมนี้อย่างน้องต้องมีความคิดหนึ่งแล้วล่ะว่าเกมจะให้อารมณ์คลาสสิ คแบบที่เคยเล่นมาก่อนไหม ด้วยการถ่ายทอดผ่านคัตซีนจึงทำให้เราสามารถโฟกัสไปที่บทสนทนา การแสดงอารมณ์ของตัวละคร การได้เห็นสีหน้าของ BJ ทั้งหมดนี้แม้จะดูเก่าแต่มันกลับดันรู้สึกว่าเก๋าอย่างไม่น่าเชื่อในการเล่า เรื่องของตัวเกมส์
แม้จะมีเนื้อเรื่องกับการนำเสนอตัวละครน่าสนใจแต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำ ให้เกมสนุกขึ้น สิ่งที่ทำให้เกมนั้นสนุกขึ้นเป็นอย่างมากคือระบบ Gunplay ของเกมหรือการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน อะไรคือข้อดี? ผมมีความรู้สึกว่าการจับปืนคู่ใจแล้วเดินยิงไปด้วยทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก เกมมีการออกแบบฉาก การวางตำแหน่งศัตรูออกมาได้ค่อนข้างดี ทำให้ผมไม่รู้สึกติดขัดและลุยได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสิ่งที่ผมชื่นชมเลยก็คือเรื่องของวัตถุไวไฟที่ในเกมอื่นๆมันสามารถ โผล่มาได้ทุกที่ทุกเวลาซึ่งเกมนี้ฉีกกฏเกมส์เดินหน้ายิงโดยไม่นำเสนอถังน้ำมัน ปริศนาแบบไร้เหตุผล เราจะไม่เห็นถังน้ำมันที่ศัตรูจะวิ่งไปหลบด้านหลัง เราจะไม่เห็นถังน้ำมันวางกลางที่โล่งแจ้งเพื่อรอเวลาให้เราอัดกระสุนใส่ ทีมพัฒนาแทบจะไม่นำเสนอลูกเล่นเหล่านี้เข้าไปในเกม เพราะฉะนั้นแล้วเราจะเห็นแค่ถังแก๊สในแล็ปวิจัยอะไรสักอย่าง จุกท่อแก็สชั้นใต้ดินไม่กี่จุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกวางไว้อย่างฉลาดเพิ่มความท้าทายของตัวผู้เล่นเป็นอย่าง มากเพราะศัตรูในเกมนั้นไม่ได้หมูอย่างที่คิด นอกจากนั้นแล้วด้วย AI ขณะต่อสู้ด้วยอาวุธปืนทำให้เห็นการวิ่งกระจายเข้าที่กำบัง การแอบ การพยายามล้อม สิ่งเหล่านี้ทำให้รู้สึกว่าศัตรูดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ถึงแม้จะมีการเดินเข้ามาให้เรายิงแบบหัวโด่ก็ตามทีแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึก ระบบ AI ในเรื่องของ Gunplay ดูเสียอรรถรสแต่อย่างใด จะมีติอยู่นิดหนึ่งคือเรื่องระบบเก็บอาวุธที่ผู้เล่นต้องคอยกด E เพื่อเก็บอาวุธ กระสุน โอเคอยู่ว่านี่เป็นสิ่งที่เกมคลาสสิคมีมาตลอด แต่ในมุมเกมร่วมสมัยแล้วผมคิดว่าการมากด E รัวๆเพื่อไล่เก็บของที่ละอย่างทำให้รู้สึกว่าเกมเพลย์ของเกมมันจะชะงักในบาง จังหวะ จุดนี้ผมคิดว่าน่าจะมีการปรับปรุงเสียหน่อยจะดีไม่น้อย แต่สำหรับพวกไอเท็มสะสมพิเศษระหว่างเกมผมก็ไม่มีปัญหาอะไรที่จะมากด E เพราะระหว่างเกมจะมีสิ่งของเหล่านี้ให้เราออกค้นหาซ่อนตามด่านอยู่แล้ว--->อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ http://game.sanook.com/954310/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น